เมื่อพูดถึงอาหารฝรั่งเศสแล้วเราจะนึกถึงเมนูแบบไหนหรือเรื่องราวอะไรกันบ้างครับ สำหรับชาวยุโรปก็คงคุ้นชินกับอาหารของเพื่อนบ้านฝั่งยุโรปตะวันตกกันอยู่แล้ว แต่กับคนไทยอย่างเรา ๆ ส่วนใหญ่แล้วจะคุ้นเคยกับอาหารอิตาเลียนมากกว่าครับ
ซึ่งในความจริงแล้ว อาหารฝรั่งเศสเองก็เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางทั่วโลก ในแง่ของอาหารที่ทรงคุณค่าและมีความเป็นเอกลักษณ์สูงมากครับ อย่างที่เราได้ “เปรียบเทียบอาหารฝรั่งเศสกับอาหารอิตาเลียน” ให้ทุกคนได้ทำความเข้าใจไปแล้วนั้น ตอนนี้เราจะมาพูดถึงตัวอาหารฝรั่งเศสและวัฒนธรรมการกินของพวกเขากันบ้าง ซึ่งจะทำให้ทุกคนได้ทึ่งว่าอาหารของชาวฝรั่งเศสก็เด็ดไม่แพ้อาหารยุโรปชื่อดังอื่น ๆ เลยครับ
วัตถุดิบที่ขาดไม่ได้
เราจะมาพูดถึงวัตถุดิบหรือส่วนประกอบอาหารที่นับว่ามีความสำคัญสุด ๆ คู่ครัวฝรั่งเศส รวมถึงครัวของร้าน Cava bien marché แห่งนี้ด้วยนะ
วัตถุดิบพื้นฐานที่ขาดไม่ได้เลยในการประกอบอาหารฝรั่งเศสก็จะมี เนย น้ำมันมะกอก มัสตาร์ดดีฌงสูตรดั้งเดิม ครีมสด ขนมปังฝรั่งเศส เห็ดทรัฟเฟิล และ Herbes de Provence เครื่องเทศสมุนไพรแห้งต้นตำรับ มักประกอบด้วยซัมเมอร์เซเวอรี่ มาร์จอแรม โรสแมรี่ ไธม์ และออริกาโน
พอนำส่วนผสมทุกอย่างมารวมกันแล้ว ก็จะได้รสชาติที่ล้ำลึกตามแบบฉบับฝรั่งเศส พร้อมมอบความน่าประทับใจให้มื้ออาหารของทุกคนได้อย่างแน่นอนครับ
มื้ออาหารแสนยาวนาน
มื้ออาหารฝรั่งเศสแบบเป็นทางการสามารถมีได้มากถึง 7 คอร์สกันเลยทีเดียวครับ เริ่มต้นด้วย l’aperitif (ขนมชิ้นเล็ก ๆ เสิร์ฟพร้อมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เบา ๆ) l’entrée (อาหารเรียกน้ำย่อย) ตามด้วยปลา อาหารจานหลัก สลัด ชีส และปิดท้ายด้วยของหวาน ซึ่งจะมีไวน์เป็นเครื่องดื่มหลักมากกว่าน้ำเปล่าอีกด้วย
ทำให้มื้ออาหารประเภทนี้รวมถึงมื้อที่มี 3 คอร์สตามปกติ อาจใช้เวลาบนโต๊ะอาหารมากถึง 2-4 ชั่วโมงเลยครับ เนื่องจากชาวฝรั่งเศสให้ความสำคัญกับเวลาทานอาหารเป็นอย่างมาก เพราะถือว่าเป็นช่วงเวลาของครอบครัวและเพื่อน ๆ ในการพูดคุย ได้สร้างความทรงจำ พร้อมเพลิดเพลินกับมื้ออาหารดี ๆ ร่วมกัน
เนื้อสัตว์ยอดนิยม
เนื้อหมูครองอันดับเนื้อสัตว์ที่นิยมรับประทานมากที่สุดในฝรั่งเศส รองลงมาคือเนื้อสัตว์ปีก เนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อแพะ และอาหารทะเลต่าง ๆ ครับ ซึ่งนับว่าเป็นชนิดที่คนทั่วไปคุ้นเคยกันดี แต่ที่มากกว่านั้นคือชาวฝรั่งเศสชอบรับประทานเนื้อม้า ขากบ กระต่าย และหอยทากอีกด้วย!
ถึงแม้ว่าม้าจะเป็นเนื้อสัตว์ที่ได้รับความนิยมมาเป็นเวลานาน แต่ปัจจุบันนี้ในฝรั่งเศสเองมีร้านขายเนื้อม้าน้อยลงมากครับ เพราะชาวฝรั่งเศสหลายคนเลือกจะไม่รับประทานด้วยเหตุผลด้านจริยธรรม ทั้งเนื้อม้าก็มีราคาแพงเช่นกัน
เมนูหอยทาก
เมนูที่ประกอบด้วยเจ้า escargots หรือหอยทากปรุงสุกเป็นหนึ่งในอาหารฝรั่งเศสซึ่งเป็นที่นิยมและมีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว มักจะนำมาเสิร์ฟเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย เช่น พัฟหอยทาก และยังนำมาสร้างสรรค์เมนูอื่น ๆ ได้อีกมากมายเลยครับ
สืบเนื่องมาจากเจ้า escargots สามารถหาได้ทั่วไปในภูมิภาคฝรั่งเศส ทำให้มีการบริโภครวม ๆ แล้วมากถึง 500 ล้านตัวต่อปี! โดยจะนิยมมากในโอกาสพิเศษอย่างเทศกาลคริสต์มาสครับ
ถึงตอนนี้ ทุกคนอาจจะสงสัยว่าหอยทากมีรสชาติแบบไหน จริง ๆ แล้ว escargots จะดึงรสชาติของซอสหรือส่วนผสมในจานนั้น ๆ มา ซึ่งโดยปกติก็จะมีรสเหมือนเนย ครีม และเครื่องเทศสมุนไพร นอกจากนั้นยังให้คุณค่าทางโภชนาการที่ดี มีโปรตีนสูง แถมยังไขมันต่ำอีกด้วย
บลูชีส
Roquefort หรือบลูชีสแบบดั้งเดิม เป็นหนึ่งในชีสที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุดในฝรั่งเศส ซึ่งเจ้าบลูชีสถือว่าเป็นที่รู้จักระดับโลกจากกลิ่นฉุนอันเป็นเอกลักษณ์ของมัน และลวดลายจากเชื้อราเป็นจุดสีฟ้าอมเขียวอยู่เต็มทั้งก้อน โดยมีต้นกำเนิดจากหมู่บ้าน Roquefort-sur-Soulzon ประเทศฝรั่งเศสนั่นเองครับ
นับว่าน่าแปลกที่เจ้าบลูชีสกลิ่นฉุนแบบนี้จะมีรสชาติที่น่าทึ่งเมื่อรับประทานพร้อมกับไวน์ โดยเฉพาะไวน์หวาน ดังนั้นเรามักจะเห็นบลูชีสในถาด cheese course ของฝรั่งเศสที่เสิร์ฟชีสหลากหลายชนิดพร้อมกับถั่ว ผลไม้แห้ง ขนมปังบาแกตต์ และไวน์ เพื่อสร้างเนื้อสัมผัสและรสชาติที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวสุด ๆ
อาหารฝรั่งเศสไม่เผ็ด?
อาหารฝรั่งเศสโดยทั่วไปมักจะไม่มีรสเผ็ดเลยครับ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยรสชาติเยี่ยมจากการใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง เช่น เครื่องเทศ สมุนไพรธรรมชาติต่าง ๆ ซึ่งส่วนมากจะให้รสชาติของเนย ครีม และ ซอสในจานนั้น ๆ
นอกจากนี้ ยังมีการใช้ไวน์ในการปรุงอาหารอีกด้วยครับ พอรวมกับเทคนิคการทำอาหารและรูปแบบการนำเสนอที่ละเอียดอ่อนแล้วนั้น จึงไม่แปลกที่หลาย ๆ คนมองว่าอาหารฝรั่งเศสมีความประณีตและคลาสสิกอย่างมาก
จับคู่ไวน์กับอาหารฝรั่งเศส
การจับคู่ไวน์แต่ละประเภทกับอาหารฝรั่งเศส นับเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มพูนความสุขในการรับประทานครับ เพราะว่าไวน์ที่ถูกเลือกจะมีผลต่อรสชาติและความสมดุลของอาหาร
โดยวิธีเลือกไวน์จะดูที่ความหนาแน่นของเนื้อสัตว์จานนั้น ๆ เรามักจะเลือกไวน์ขาวที่มีรสชาติเผ็ดปนหวาน รับประทานคู่กับอาหารทะเลและเนื้อสัตว์ปีก ส่วนไวน์แดงที่มีกลิ่นสัมผัสที่เข้มข้นกว่าจะเหมาะกับเนื้อต่าง ๆ และสเต็กที่มาพร้อมซอส
อย่างไรแล้ว เราไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎนี้เสมอไปครับ เนื่องจากคนเรามีรสนิยมที่แตกต่างกัน ที่ Cava bien marché เรามีไวน์หลากหลายประเภทจากทั้งฝรั่งเศสและต่างประเทศทั่วโลกพร้อมให้บริการ เพื่อยกระดับอาหารมื้อพิเศษให้ทุกคนได้เลือกสรรตามความชอบนั่นเอง
You might also like
-
เหตุผลที่ต้องหลงรัก “ขนมเอแคลร์”
-
Why We Love Eclairs?
-
เฟรนซ์ฟรายส์กับอาหารฝรั่งเศส เกี่ยวข้องกันอย่างไร?
-
French fries with French food How are they related?
