ทำความรู้จัก CHEF SEBASTIEN กว่าจะมาเป็นเชฟประจำร้านซาว่าเบียนมัคเช่

เชฟเซบาสเตียนเริ่มเข้าวงการอาหารตั้งแต่อายุ 16 ปี เนื่องจากหลักสูตรการเรียนที่ฝรั่งเศส ถ้าจะมาสาย cuisiner ต้องเริ่มตั้งแต่ยังเด็กมาก เริ่มต้นจากฝึกงานตั้งแต่หั่นผักล้างจานจนมาเป็น executive chef ได้นั้นเส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบค่ะ เพราะประเทศฝรั่งเศสให้ความสำคัญกับอาชีพนี้มากๆ เชฟที่มีชื่อเสียงคืออาชีพที่มีเกียรติและมีอิทธิพลมากเช่นกัน

เริ่มจากฝึกฝนจากเชฟชั้นครูที่บ้านเกิดเมือง St. Jean de luz เมืองชายทะเลทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศสไต่เต้าจนหน้าที่การงานรุ่งเรืองที่ปารีส เป็นมือขวาของเชฟ อีฟส์ กัมเดอบอร์ด ผู้เลื่องชื่อ และต่อมาจึงฝากฝังให้เป็น head chef ที่ร้านมิชเชอลินที่หรูหราที่สุดใน Bordeaux และที่เมืองนี้เองเป็นสถานที่ที่ได้พบรักแท้ เลยหอบเสื้อผ้าหนีตามสาวไทยมาอยู่ประเทศไทยกว่า 5 ปีแล้วค่ะ

สไตล์การทำอาหารแบบเชฟเซบาสเตียน เบื้องหลังนั้นต้องใช้เทคนิควิธีการชั้นสูงแบบ fine dining แต่สร้างสรรค์ออกมาให้อร่อยแบบเข้าใจได้ง่ายไม่ซับซ้อนในแบบบิสโทร

ต้นกำเนิดของอาหารรูปแบบนี้ คือเชฟ Yves Camdeborde เชฟ michelin star ผู้โด่งดัง master chef jury ของฝรั่งเศส และเป็นครูผู้ฝึกฝนเชฟเซบาสเตียนของเรามาค่ะ เนื่องจากเชฟอีฟส์ กัมเดอร์บอร์ด อยากให้อาหารที่วิจิตรบรรจง แบบ fine cuisine ถูกเสริฟและจัดการใหม่ในราคาสมเหตุผลและบรรยากาศที่เป็นกันเองขึ้น

ร้านในแบบ “Bistronomy” จึงได้รับความนิยมเรื่อยมา และด้วยเทรนด์การทำอาหารรูปแบบนี้ส่งผลให้เชฟไม่ต้องกังวลอยู่กับกฏเกณฑ์ที่ยุ่งยากเพื่อมุ่งสู่ michelin star และมีเวลาสร้างสรรค์อาหารที่ถึงหัวใจและสร้างประสบการณ์ในแบบไม่เป็นทางการกับผู้มาชิม ซึ่งทำให้ใกล้ชิดกว่า ไม่เกร็งและน่ารักกว่ามากค่ะ

เริ่มงานที่แรกของเชฟเซบาสเตียน ทั้งๆที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย แต่ท่านสุเทพ เทือกสุบรรณ ไว้ใจและให้โอกาสเชฟได้ทำงานใกล้ชิดที่ the pacific club เป็น private club ที่เปิดเฉพาะ member และข้าราชการชั้นสูงเท่านั้น ท่านสุเทพถึงขนาดจ้างล่ามมาประกบเชฟเลยนะคะ หลังจากนั้น ได้เป็น head chef ที่ Scarlett wine bar & restaurant at Pullman G silom และ Belga rooftop bar & brasserie @sofitel Sukhumvit ตามลำดับ และก่อนจะมาประจำที่ çava bien marché คือ head chef แห่ง Cocotte ร้านอาหารฝรั่งเศสชื่อดังที่สุดตลอดกาลค่ะ